เปิดมุมมองฟาซาด เผยตัวตนแห่งสถาปัตยกรรม กับแคมเปญ DECAAR Facade Unfolding ที่มีการแลกเปลี่ยนมุมมองการนำวัสดุตกแต่งที่หลากหลายมาใช้ในการออกแบบฟาซาดสไตล์ต่าง ๆ ผ่านสถาปนิกทั้ง 4 ท่าน ที่จะพาไปเจาะลึกถึงเทรนด์ฟาซาด และการตอบโจทย์การใช้งานของ Materials ในแต่ละสไตล์ ได้แก่
- Touch of Nature ฟาซาดสไตล์ธรรมชาติ
- Living with Pattern ฟาซาดที่เน้นมิติตื้นลึกจากแพทเทิร์น
- Keep it Simple ฟาซาดสไตล์เรียบง่าย เน้นดีเทลผ่าน Texture วัสดุ
- Elements of Light and Shadow ฟาซาดเล่นเอฟเฟคแสงและเงาผ่าน Solid&Voild ที่ไม่เหมือนใคร
Touch of Nature คงความงามอย่างเป็นธรรมชาติให้ยั่งยืน ผ่านสีสันและพื้นผิวเสมือนจริง
เมื่อเจ้าของบ้านต้องการให้บ้านน่าอยู่ มีบรรยากาศอบอุ่นเหมาะกับการพักผ่อน การดึงเอาธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในงานออกแบบเพื่อให้ตัวอาคารกลมกลืนไปกับสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ จึงเป็นคอนเซปต์ที่ถูกหยิบมาใช้ในหลาย ๆ ครั้ง
โดยคุณปกรณ์ อยู่ดี สถาปนิกจาก INLY Studio ได้เล่าถึงคอนเซปต์นี้ว่า ในการดีไซน์เราสามารถเลือกวัสดุทดแทนที่ตอบโจทย์ทั้งด้านรูปลักษณ์และผิวสัมผัสที่ทำให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่ใกล้เคียงกับวัสดุธรรมชาติมาใช้งานแทนได้ ซึ่งนอกจากจะได้สัมผัสที่เสมือนจริงแล้ว ยังติดตั้งได้ง่ายและมีความทนทานกว่า
ในฟาซาดสไตล์ Touch of Nature นี้มีผนังตกแต่งที่ให้สไตล์ Nature เช่น ผนังตกแต่ง KMEW ที่มีให้เลือกหลากหลายซีรีย์ พร้อมเทคโนโลยีทำความสะอาดตัวเองได้ หรือผนังตกแต่ง SCG Wood-D ที่ผลิตด้วยระบบ Digital Printing พิมพ์ลวดลายไม้ลงบนวัสดุ ให้ความสวยงามสมจริง และ SCG Coate’ ผนังตกแต่งลายเสี้ยนไม้สวยงาม พร้อมทำให้สถาปัตยกรรมและธรรมชาติโดยรอบเป็นหนึ่งเดียวกันได้
Living with Pattern เพิ่มมิติแสงและเงา สร้างภาษาทางสถาปัตยกรรมให้ฟาซาดน่าสนใจ
เปิดเผยความงามของงานออกแบบ ที่ไม่ใช่แค่ต้องมี Space และ Form ที่สวย แต่สิ่งสำคัญ คือต้องมีภาษาทางสถาปัตยกรรมที่ชัดเจนด้วยเพื่อเน้นให้งานดีไซน์มีความน่าสนใจ ไม่เรียบนิ่งจนเกินไป
ในแคมเปญ Facade Unfolding : Living with Pattern ได้
คุณธาวิน หาญบุญเศรษฐ สถาปนิกจาก WARchitect มาแลกเปลี่ยนมุมองในการสร้างภาษาทางสถาปัตยกรรม ผ่านการใช้ผนังตกแต่งโปรไฟล์สามเหลี่ยมหรือสี่เหลี่ยม ซึ่งให้ความ Contrast สูง เกิดแสงเงาชัดเจน และผนังตกแต่งโปรไฟล์โค้งเว้า ให้แสงและเงาค่อย ๆ เกลี่ยเข้าหากันอย่างนุ่มนวล
ในสไตล์ Living with Pattern นี้ มีผนังตกแต่งที่แนะนำคือ SCG Modeena ผนังตกแต่งที่มีมิติความตื้นลึกชัดเจน มีโปรไฟล์ให้เลือกใช้ถึง 5 โปรไฟล์ และ SCG Modish ใน 2 โปรไฟล์ คือ SCG Modish-V โปรไฟล์สามเหลี่ยม และ SCG Modish-U โปรไฟล์ครึ่งวงกลม ซึ่งช่วยสร้างแพทเทิร์นให้ฟาซาด เกิดเป็นภาษาทางสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจได้
Keep it Simple สร้างความกลมกลืนเรียบง่าย แต่มีดีเทลและเสน่ห์ในตัวเอง
การดีไซน์งานสถาปัตยกรรมให้มีความสมบูรณ์แบบ สิ่งสำคัญที่สุด คือการเลือกวัสดุที่นำมาตกแต่งให้มีความสวยงามอย่างพอดี จะทำให้สถาปัตยกรรมนั้นมีความเรียบง่ายลงตัว
คุณเอกภาพ ดวงแก้ว จาก EKAR Architects นำเสนอมุมมองว่า ในการดีไซน์งานสถาปัตยกรรมให้มีความพอดี คือการดีไซน์ให้มีความเรียบง่าย ซึ่งเกิดขึ้นจาก 2 ส่วน คือ การเลือกใช้วัสดุที่มีความงามในตัวเอง มีความเรียบง่ายแต่มีดีเทลเต็มเปี่ยม สามารถพลิกแพลงการใช้งาน สร้างแพทเทิร์นเพิ่มความน่าสนใจให้กับดีไซน์ได้ และอีกส่วน คือการลดทอนสิ่งที่ไม่จำเป็นลง ให้เหลือเพียงสิ่งที่สำคัญและจำเป็นที่สุด เพื่อให้เนื้อหาทางสถาปัตยกรรมที่ต้องการสื่อสาร ไม่ถูกบดบัง
แนะนำผนังตกแต่งในเทรนด์ Keep it Simple เช่น ผนังตกแต่ง KMEW Solido ที่เน้นสัจจะวัสดุ โชว์ผิวและสีที่แท้จริง พร้อมเกิดคราบขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติหลังการใช้งาน และผนังตกแต่ง KMEW Lap Wall ที่มีให้เลือกหลายลวดลาย แต่ยังช่วยคงความเรียบง่ายลงตัวของดีไซน์ฟาซาดเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
Elements of Light and Shadow ให้ฟาซาดเป็นตัวแทนถ่ายทอดความรู้สึก ผ่านแสงและเงาของแต่ละช่วงเวลา
เมื่อใช้งานสถาปัตยกรรมในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน ความรู้สึกหรือบรรยากาศที่ได้สัมผัสจะแตกต่างกันไปด้วย นั่นเป็นผลมาจากเอฟเฟคแสงและเงาที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งกลายมาเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่ทำให้อาคารมีความสวยงามและน่าสนใจมากขึ้น
คุณกศินร์ ศรศรี สถาปนิกจาก Volume Matrix Studio เปรียบเปรยและยกตัวอย่างผ่านงานที่ได้ออกแบบเอาไว้ว่า การมีช่องเปิดหรือระแนงในงานดีไซน์ เป็นการเพิ่มการเชื่อมโยงเข้ากับธรรมชาติ เมื่อแสงลอดผ่าน Solid&Void จะทำให้เกิดแสงเงาคล้ายกับเวลาที่นั่งอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่ และทำให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์เชิงพื้นที่ใหม่ ๆ อยู่เสมอจากเอฟเฟคแสงและเงาที่เปลี่ยนไปตามการเคลื่อนที่ของดวงอาทิตย์
ในเทรนด์ Elements of Light and Shadow มีผนังตกแต่งที่แนะนำ เช่น ระแนงตกแต่ง เอสซีจี รุ่น อลู-เอ็กซ์ (Alu-X) ที่มีความทนทาน ใช้งานได้หลากหลาย ช่วยพรางตาแต่ยังคงความโปร่งบางและมีลวดลายเหมือนไม้จริง หรือ ผนังตกแต่ง SCG Fretwork ที่เจาะฉลุลาย สร้างดีไซน์ฟาซาดเฉพาะตัว เกิดเป็นเอฟเฟคแสงและเงาที่ไม่เหมือนใคร
หากต้องการสร้างสรรค์หรือเพิ่มดีเทลที่น่าสนใจให้ฟาซาดถ่ายทอดภาษาทางสถาปัตยกรรมให้ชัดเจนมากกว่าเดิม สามารถติดตามเทรนด์ฟาซาดและการอัปเดตวัสดุตกแต่งใหม่ ๆ ได้ผ่านทางเฟสบุคเพจ DECAAR by SCG และเว็บไซต์
www.decaarbyscg.com